การตั้งเป้าคว้าแชมป์ อาจเป็นการมองโลกในแง่บวก แบบสุดขั้ว แต่อย่าลืมไปนะว่า จาก 10 นัดล่าสุดที่พบคู่แข่งในระดับท็อป ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ในเกมลีกแม้แต่นัดเดียว แต่ฤดูกาล กลับแพ้ให้กับทีมเล็ก จนนักวิจารณ์พากันตั้งข้อสังเกต 4 ข้อ ในการลงสนามของทีมหงส์แดง วิเคราะห์ลึกถึงการตัดสินใจทั้งในด้านแท็กติก การจัดตัวนักเตะ และการปรับเปลี่ยนเกมที่อาจส่งผลต่อฟอร์มของทีมลิเวอร์พูล พร้อมมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญว่าเหตุใดความผิดพลาดเหล่านี้จึงเป็นจุดอ่อนที่ต้องเร่งแก้ไข ติดตามเรื่องราวเบื้องหลังของปัญหาที่อาจพลิกชะตาการแข่งขันของทีมได้ในอนาคต
- คล็อปป์ จอมบ้าพลัง
ความบ้าพลัง มันไม่เข้าใครออกใคร แต่มันเป็นความแน่นอนของ คล็อปป์ จากสไตล์การเล่นที่ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล จึงเป็นอุปสรรคในการคุมเกมไว้ได้จนตลอด 90 นาที และไม่มีผู้เล่นคนไหนวิ่งได้อย่างบ้าคลั่งตลอดเกมการแข่งขัน สไตล์การเล่นแบบบ้าพลังของ คล็อปป์ เริ่มเป็นมาตั่งแต่ต้นฤดูกาล ที่ลิเวอร์พูล เสมอมา 7 เกมติดต่อกัน โดยจาก 2 นัด ทีมคู่แข่ง คือ ซันเดอร์แลนด์ และ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งเป็นทีมระดับท้ายตาราง จบฤดูการ ลิเวอร์พูล เสียไปทั้งหมด 18 แต้ม
- แนวรับมีจุดอ่อน
ลิเวอร์พูล มักจะเล่นโต้กลับเกมรุกดั่งพายุหมุน ที่จะเข้าฉีกคู่แข่งเป็นชิ้น ๆ เข้าอาจจะทำได้ในวันที่ฟ้าเป็นใจ เหมือนกับวันที่ถล่ม อาร์เซน่อลไป 4 – 0 แต่ด้วยไสตร์การเล่นแบบการวิ่งตลอดทั้งเกม โดยมีกองกลางของทีมที่ไม่แข็งแกร่ง แถมยังมีนายด่านที่ไม่ชำนานการรับมือลูกครอส และเมื่ออยู่ในสถานะโดนบุก ภายใต้แรงกดดันที่สูง จึงทำให้แรงรับพากันขวัญหนีแตกกระเจิงกันหมด
- ตั้งเกมรับ
ทุกปัญหากำลังถาโถมเข้ามาใส่ ลิเวอร์พูล อย่างบ้าคลั้ง คงเป็นการยากที่จะได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์ แต่การตั้งรับที่ดี ก็จะทำให้ได้มีโอกาสสวนกลับในเวลาที่คู่แข่งอ่อนแรง จุดสังเกตที่ทำให้ทีมท้ายตารางรับมือกับทีมใหญ่ ๆ ได้นาน ก็คือ การรวมเอาพละกำลัง การพลิกแพลงเกม และระเบียบวินัย มารวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อต้านแรงกดดันจากการบุกของทีมใหญ่ที่หวังจะล้าแต้ม
